สายเบียร์ต้องรู้! ดื่มเบียร์ยังไงให้อร่อย









เบียร์มีส่วนผสมหลัก 4 อย่างคือ

1. น้ำ – เป็นส่วนประกอบสำคัญประมาณ 90% ขึ้นไป มีเกลือแร่ต่างๆด้วย จึงทำให้เบียร์มีรสชาติต่างกันไป
2. ฮ็อพ (Hobs) – เป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งใช้เพื่อรักษาความสมดุลหรือเพิ่มรสชาติของเบียร์ ฮ็อพทำให้เบียร์มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
3. ข้าวบาร์เลย์ที่นำมาเพาะและอบให้แห้ง (Barley malt) – จะทำให้เกิดน้ำตาลที่ยีสต์สามารถกินได้
4. ยีสต์ (Yeast) – จุลินทรีย์ที่กินน้ำตาลที่พบในข้าวบาร์เลย์ และแปลงเป็นแอลกอฮอล์และก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ (ฟอง)
– เมื่อรวมส่วนผสมหลักเหล่านี้เข้าด้วยกันในกระบวนการหมักเราก็จะได้เบียร์ขึ้นมา
– เบียร์รสชาติแปลกๆ ของแต่ละยี่ห้อ ก็จะใส่ส่วนผสมอื่นๆ เข้าไปเพื่อสร้างรสชาติที่แตกต่างกัน




เบียร์มีอยู่สองประเภทหลัก คือ เอลล์ (Ales) และ ลาเกอร์ (Lager)

เอลล์ (Ales)

  • เบียร์หมักยีสต์ลอยหน้า คือที่เกิดจากการหมักขึ้นที่ด้านบนสุดของถังหมัก
  • ถูกหมักที่อุณหภูมิสูงกว่าลาเกอร์เบียร์ ประมาณ 10-15 องศา
  • ใช้เวลาหมักน้อยกว่าลาเกอร์เบียร์ ประมาณ 2-3 สัปดาห์
  • เบียร์มีสีเข้ม รสชาติเข้มข้น

ลาเกอร์ (Lager beer)

  • เบียร์หมักยีสต์นอนก้น คือ เกิดจากการหมักขึ้นที่ก้นของถังหมัก
  • ลาเกอร์เบียร์หมักที่อุณหภูมิไม่เกิน 5 องศา
  • ลาเกอร์ถูกหมักที่อุณหภูมิเย็นกว่า ส่งผลให้ได้เบียร์ที่ใส สด และเรียบเนียนกว่าเบียร์เอลล์
  • ใช้เวลาหมักมากกว่าเอลล์ ประมาณ 4 สัปดาห์
  • เบียร์ที่ผลิตจากผู้ผลิตยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมดจะเป็นแบบ Lagers ซึ่งเหมาะกับอากาศการดื่มในเมืองร้อนๆอย่างประเทศไทยมากกว่า



 

การผลิตเบียร์ จะถูกแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ


MacroBrews คือการผลิตเบียร์แบบโรงงานโดยการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ในปริมาณมาก  อีกประเภทเรียกว่า Craft Beer หรือ MicroBrews คือการผลิตเบียร์แบบ handmade หมักในถัง มีกำลังการผลิตต่อปีไม่มากนัก เน้นขายในบริเวณท้องถิ่น และมีการปรุงแต่งให้มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว โดยการใช้ malt ที่ผลิตจากวัตถุดิบท้องถิ่น

Draft vs Bottle




Draft Beer มักจะอยู่ในรูปแบบ Keg หรือถัง เป็นเบียร์ที่ยังไม่ผ่าน pasteurization process ต้องเก็บรักษาให้เย็นอยู่ตลอดเวลา เก็บได้ไม่นาน มีความสดกว่า รสชาติดีกว่าเบียร์แบบขวด ที่ผ่าน pasteurization process และเจอกับความร้อนในกระบวนการบรรจุใส่ขวด ทำให้รสชาติเสียไป นอกจากนี้ Draft Beer มักเสริฟจาก tap ใส่แก้ว เราจะได้เบียร์ที่มีฟองนุ่มปิดอยู่ด้านบน ทำให้การดื่มเบียร์ ได้รสชาติที่ดีมากขึ้น

Tips การดื่มเบียร์ให้อร่อย




  • เบียร์ขวดหรือกระป๋อง แม้ว่าจะผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว ก็ไม่ควรเก็บไว้นานนักเพราะเบียร์จะเสียกลิ่นและรส ควรรีบดื่มก่อนภายในเวลา 3-4 เดือนหลังจากวันที่ผลิตจากโรงงาน
  • อุณหภูมิในการเก็บที่ดีคือระหว่าง 4.5-21 องศาเซลเซียส
  • เก็บให้ห่างแสงแดดเพราะจะทำให้เบียร์เสื่อมคุณภาพ
  • เพื่อให้ได้รสชาติเบียร์แท้ๆ ไม่ควรใส่น้ำแข็ง แต่ให้ใส่ในแก้วที่พอดีแล้วกินให้หมดก่อนที่เบียร์จะหายเย็น
  • เบียร์ที่มีกลิ่นหอม ควรกินใส่แก้วปากกว้าทรงทิวลิป เวลาดื่มจะได้กลิ่นของเบียร์ด้วย ยิ่งอร่อย
  • เบียร์ที่แอลกอฮอล์ต่ำ เหมาะกับอาหารเบาๆ เช่น สลัด ปลา เมนูนูเรียกน้ำย่อย
  • เบียร์ที่แอลกอฮอล์สูง เหมาะกับอาหารหนัก หรือรสจัด เช่น สเต็ก ข้าวปั้น ซูชิ ฯลฯ
ขอขอบคุณ Wongnai.com

ซื้อเบียร์ออนไลน์ที่ https://www.beerbazuka.com


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ลองหรือยัง? Beer Cocktail

7 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเบียร์ ที่นักดื่มไม่รู้